“ปลูกมะนาวหน้าแล้ง ใคร ๆ ก็ทำได้ แถมได้ผลดีซะอีกด้วย...”
สวัสดีค่ะ... วันนี้ผู้เขียนขอเสนอแนวคิดในการปลูกมะนาวหน้าแล้ง ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ แถมได้ผลดีซะด้วยหรือบางทีอาจจะดีกว่าในหน้าฝนด้วยซ้ำไป ทั้งหมดที่จะกล่าวต่อไปนี้เกิดจากการสังเกตของตัวผู้เขียนเองนะคะ โดยผู้คนส่วนใหญ่นั้นมักคิดว่าการปลูกพืชผลใด ๆ ก็ตาม จำเป็นจะต้องปลูกในหน้าฝน(ฤดูฝน)เท่านั้น! เพราะต้นไม้ที่เราปลูกจะเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งผู้เขียนก็เห็นด้วย แต่.. ไม่ใช่ซะทั้งหมดค่ะ
เนื่องจากดินประกอบด้วย..น้ำ 25% อากาศ 25% อนินทรียวัตถุ 45% และอินทรียวัตถุ 5%
น้ำในดิน ซึ่งจำเป็นสำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายธาตุอาหาร และสารประกอบต่าง ๆ ในต้นพืช นอกจากนั้นยังช่วยละลายธาตุอาหารพืชในดินอีกด้วย
อากาศในดิน ใช้ในการหายใจของพืช และยังทำหน้าที่ให้ออกซิเจนแก่รากพืชและจุลินทรีย์ดิน
อนินทรียวัตถุ เป็นแหล่งธาตุอาหารพืชที่สำคัญที่สุด ซึ่งอนินทรียวัตถุเป็นส่วนที่ได้จากการผุพัง สลายตัวของแร่และหิน
อินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่มีความสำคัญในการทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี และยังเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ดิน ซึ่งอินทรียวัตถุเหล่านี้เป็นส่วนที่ได้จากการเน่าเปื่อย ผุ สลายตัวของเศษซากพืช ซากสัตว์ที่ทับถมกันอยู่ในดิน แต่กลับมีปริมาณธาตุอาหารพืชต่ำ (เพียง 5%)
มาต่อกันในส่วนที่ว่าผู้เขียนไม่เห็นด้วยซะทั้งหมด ก็คือ หากบ้านไหนมีแหล่งน้ำสำรอง (ขุดบ่อไว้สำหรับหน้าแล้ง) หรืออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ เช่น คลอง แม่น้ำ ชลประทาน เป็นต้น ท่านก็สามารถปลูกพืชใด ๆ ก็ได้ และอีกอย่างที่หน้าแล้งดีกว่าหน้าฝนก็มาจากการที่ผู้เขียนได้ทดลองปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ช่วงหน้าแล้ง พบว่ามะนาวที่ลงปลูกไปเพียงไม่กี่สัปดาห์มีการเจริญเติบโตที่ดี และแตกยอดออกมาใหม่ทุก 2-3 สัปดาห์ โรคแมลงก็น้อย ซึ่งต่างจากตอนหน้าฝนอย่างชัดเจน
ระวัง! ฤดูฝนอาจมาพร้อมกับโรคแมลงหลาย ๆ ชนิดก็เป็นได้ ถ้าคุณไม่รู้จักรับมือ อย่างเช่น โรคที่พบมากที่สุดในพืชตระกูลส้ม หนีไม่พ้นโรคนี้แน่นอน แคงเกอร์ (เกิดจากแบคทีเรีย) ที่อาจแพร่กระจายได้โดยน้ำฝนที่ตกมาชะล้างโดนใบ ทำให้โรคลุกลามไปติดใบหรือต้นข้างเคียงได้ โรครากเน่าโคนเน่า ที่เกิดจากน้ำท่วมขังบริเวณรากและโคนต้น โดยที่รากฝอยและรากแขนงจะเน่ามีสีน้ำตาลหรือดำ ลักษณะเหนียว ไม่ยุ่ย เปลือกของลำต้นจะปริแตกออกโดยเฉพาะโคนต้น และมียางไหลบริเวณขอบแผล เมื่อรากและต้นถูกทำลายมาก ๆ จะทำให้ใบเหลือง ร่วงหล่น และตายในที่สุด ทั้งนี้ก็เพราะว่าในช่วงฤดูฝนเราไม่สามารถจัดการเรื่องฟ้าฝนได้ บางทีก็ตกซะเยอะเกิน เพราะมะนาวเป็นพืชที่ชอบชื้น แต่ไม่ชอบแฉะ ทำให้ควบคุมปริมาณการให้น้ำได้ยากกว่าในช่วงหน้าแล้ง
นอกจากนี้ผู้เขียนยังมีอีก 3 ทางเลือกให้ท่านลองไปปฏิบัติกัน ซึ่งผู้เขียนได้ลองปฏิบัติควบคู่ไปกับการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ซึ่งช่วงที่ปลูกมะนาวนั้นเป็นช่วงหน้าแล้งพอดีค่ะ...
ทางเลือกที่ 1 ปลูกพืชผักสวนครัวไว้รอบ ๆ โคนต้น
(สะระแหน่)
ผลพลอยได้จากทางเลือกที่ 1 : ช่วยรักษาความชื้นในดิน ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อยกว่าที่ควร และยังได้ผักสวนครัวสด ๆ ไว้บริโภคในครัวเรือนหรือจะแจกเพื่อนบ้านก็ยังได้ ถ้าปลูกไว้หลาย ๆ กระถางเหลือกินเหลือแจกก็สามารถนำไปขายเป็นรายเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ากระเป๋าได้อีกด้วยน้า
ทางเลือกที่ 2 โรยถั่วเขียวลงไปในดินปลูกมะนาว
ผลพลอยได้จากทางเลือกที่ 2 : เป็นการเช็คคุณภาพดินปลูก(มะนาว)ไปในตัว เพราะถ้าเราลองโรยเมล็ดถั่วเขียวก่อนที่จะนำกิ่งพันธุ์มะนาวลงไปปลูก แล้วถั่วเขียวมีการงอกดีก็แสดงว่าดินมีความเหมาะสมที่จะปลูกพืช เพราะถั่วเขียวจะช่วยบำรุงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ตรึงไนโตรเจนได้ดี และยังสามารถใช้เป็นปุ๋ยพืชสดที่ให้ปริมาณไนโตรเจนสูงอีกด้วย
ทางเลือกที่ 3 คลุมเศษหญ้า เศษฟาง
(เศษหญ้าวัชพืช หรือเศษฟาง)
ผลพลอยได้จากทางเลือกที่ 3 : เศษหญ้า เศษฟางจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในดินได้ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่งในหน้าแล้ง ทำให้เราไม่ต้องรดน้ำบ่อยมาก และยังควบคุมหญ้า วัชพืชไม่ให้ขึ้นมาสร้างความรำคาญให้เราปวดหัวมากนัก
# สุดท้ายผู้เขียนก็หวังว่าทั้ง 3 ทางเลือกที่ได้นำเสนอไปนี้ น่าจะพอถูกใจท่านผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ติดขัดสงสัยตรงไหนสอบถามได้ค่ะ
โทร. 086-604-1263 เกษตรอุดม
และท้ายสุดนี้.. ผู้เขียนหวังว่าการตัดสินใจปลูกมะนาวในหน้าแล้ง คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไปสำหรับทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ มาสรุปกันอีกนิดดีกว่า
“..มีแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ในหน้าแล้ง หรืออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำตามธรรมชาติเพียงเท่านี้ก็อุ่นใจได้เลยค่ะ คิดซะว่าหน้าแล้งสบาย สบาย ลัลลาบาย.. ควบคุมน้ำก็ง่าย (สมมติดินแห้งไปนะ ก็รดน้ำเพิ่มอีกหน่อยสิ ดินแฉะไปแล้ว พรุ่งนี้เว้นซักวันก็ได้ รดมะรืนทีเดียวเลยโนะ อะไรประมาณนี้ อิ อิ) แต่อย่าลืมบวกกะ 3 ทางเลือกไปด้วยนะคะ จะยิ่งช่วยให้ท่านไม่ต้องเหนื่อยกับการรดน้ำทุกวัน..” ใช้ได้กับพืช(เกือบ)ทุกชนิดนะคะ ไม่ใช่แค่มะนาวเพียงอย่างเดียว ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านเจ้าค่ะ^^ ,, Jib Sasi